การชักนำอะคริลิคพลาสติกมาหาหน้าที่ให้เกิดคุณประโยชน์ชั้นเลิศ

ในปัจจุบันนี้ อะคริลิคพลาสติก มีการเอามาปรับใช้กับหลายๆ อย่างพร้อมๆ กัน อาทิเช่น เครื่องแต่งตัว ป้ายโฆษณา ฯลฯ แต่ที่อาจจะปรับใช้ได้อย่างพอดีที่สุด ก็คือกระจก สระเลี้ยงปลานั่นเอง นั่นเพราะว่าการใช้กระจกเงาแก้วในการจัดแจงกระจกเงาสระเลี้ยงปลา โดยมากมีปัญหากับการที่แสงสาดส่องผ่านเข้าไม่ถึง เป็นเหตุให้กระจกดูโล่งและมองดูไม่ค่อยแลเห็นปลาในตู้หรือไม่ก็ในบ่อ อย่างไรก็ตามเมื่อใช้แผ่นอะคริลิคพลาสติกแทนที่ สามารถเห็นปลาในตู้ได้อย่างชัดแจ้งพร้อมกับน่าพึงพอใจกว่า ด้วยคุณสมบัติที่เด่นกว่า ดังนี้

1.ความหนักเบา จึงกระทำการขนย้ายและจัดตั้งได้ไม่ยากกว่า

2.แสงสว่างสามารถส่องผ่านได้มากถึง 92% จึงเป็นเหตุให้กระจกเงามีความใสสะอาดและอาจจะเห็นปลาได้ถนั ดตาเพิ่มขึ้น

3.อาจจะเชื่อมโยงแผ่นพลาสติกให้ติดอยู่เป็นเนื้อเดียวกันได้ พร้อมด้วยการฉาบสารเคมีบางอย่าง

4.อาจจะใช้เป็นฉนวนความร้อนได้เหนือชั้นกว่าแก้ว จึงช่วยทุ่นค่าใช้จ่ายในด้านพลังงานได้ดี

5.ถึงแม้ว่าจะมีความแบบบางและอาจเกิดร่องรอยขูดขีดได้มากกว่าแก้ว แต่ก็อาจฉาบสารเพื่อให้เพิ่มความมั่นคงและระแวดระวังคราบขีดได้

จากการหาความรู้ว่าด้วยเค้าโครงและการชี้นำอะคริลิคพลาสติกมานำมาใช้ จะมองดูได้ว่าอะคริลิคพลาสติกอาจใช้งานได้อย่างมากมาย และมีคุณสมบัติที่เด่น ควรจะใช้งานเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็มีจุดด้อยอยู่บ้าง คือมูลค่ามีราคา อย่างไรก็ดี เมื่อเปรียบเทียบคุณสมบัติและกำไรที่ได้จากอะคริลิคพลาสติกแล้ว ก็ถือได้ว่ามีความคุ้มราคามาก

คุณลักษณะของกุญแจมาสเตอร์คีย์

กุญแจมาสเตอร์คีย์ Masterkey เป็นระบบลูกกุญแจที่แม่กุญแจแต่ละลูกสามารถเปิดลูกบิดหรือว่าลูกกุญแจได้หลายลูก ซึ่งตามปกติของโลกนี้จะเป็นระบบการทำลูกกุญแจที่ยากมาก เนื่องจากว่าจำต้องใช้การคำนวณเรื่องเขี้ยว Pin หรือ แหวน Ring ข้างในที่ละเอียด และลูกกุญแจมาสเตอร์คีย์นี้สามารถจัดเก็บระบบการดำเนินการองค์การได้ เช่น ในบริษัทหนึ่ง ผู้ตัดสินผู้จัดการจะถือ Master Key ที่สามารถเปิดประตูทุกบานทุกห้องได้ ทว่ากุญแจมาสเตอร์คีย์ที่รองกรรมการผู้จัดการถืออยู่จะไขได้ทุกห้องนอกจากห้องกรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยผู้จัดการทั่ว ๆ ไปจะไขได้ทั่วห้อง เว้นห้องฝ่ายการคลัง ห้องกรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ เป็นต้น แต่ทว่าประเทศไทยเราประกอบด้วยกุญแจมาสเตอร์คีย์อีกอย่างหนึ่งที่จัดทำง่าย ๆ แต่ว่าแหลมคมอย่างสมองคนไทยเรียกว่าคือ Ghost Master Key หรือ quot มาสเตอร์คีย์ผี quot ก็ปฏิบัติหน้าที่ราวกับกุญแจผีทั่ว ๆ ไปทว่าคือซุปเปอร์กุญแจผี ซึ่งบางโอกาสก็ดำเนินการได้เหมือนกับกุญแจมาสเตอร์คีย์ ถ้าว่าบางช่วงก็เหมือนเศษเหล็กรับจ้างทำกันทั่ว ๆ ไป ซึ่งร้ายแรงกับระบบความปลอดภัยของอาคาร เนื่องด้วยคนรับจ้างทำอาจไปเปลี่ยนแบบระบบแหวน Ring หรือว่า เขี้ยว Pin ข้างในกุญแจมาสเตอร์คีย์เราด้วย

 

ขณะใช้ระบบกุญแจมาสเตอร์คีย์ท่านอาจจะดำเนินการสิทธิ์การเข้าที่แตกต่างต่างกันด้านในส่วนตึกได้ ดังนั้นบ่อยครั้งที่องค์ประกอบการดำเนินการของบริษัทสะท้อนให้แลเห็นข้างในส่วนประกอบของระบบกุญแจมาสเตอร์คีย์ ผู้ถือกุญแจมาสเตอร์คีย์สามารถใช้กุญแจดอกนี้หรือว่าใช้กุญแจไม่กี่ดอกในการล็อคไส้กุญแจต่าง ๆ ได้เป็นอย่างมาก เว้นแต่ว่าความสะดวกแล้วยังโดดเด่นในเรื่องความปลอดภัยด้วย เนื่องด้วยระบบกุญแจมาสเตอร์คีย์มีการใช้เทคโนโลยีไส้กุญแจที่ก้าวหน้าแบบบริบูรณ์และโปรไฟล์กุญแจคุณลักษณะสูงเท่านั้น ระบบกุญแจมาสเตอร์คีย์บางแบบคือโซลูชันเท่านั้นพร้อมด้วยถูกปรับให้กับความต้องการแบบเฉพาะพร้อมทั้งผลิตด้วยมาตรฐานชั้นเยี่ยม ขณะได้ตัดสินใจคัดเลือกระบบกุญแจมาสเตอร์คีย์อันล้ำสมัยพร้อมด้วยอุปกรณ์และฟังก์ชันการทำงานที่แตกต่างกัน เป็น|คือ}ระบบที่มุ่งเสนอออปชันการดีไซน์ที่หลากหลาย ซึ่งรวมไปถึงการเสริมการทำงานในวันหลังด้วยเหมือนกัน ไส้ลูกกุญแจแบบกลไก แบบเมคคาทรอนิกส์ และแบบอิเล็กทรอนิกส์คุณลักษณะสูงจะใช้ในการบริการที่ทั่วถึง ซึ่งเกี่ยวกับการวางแผนการ การจัดการ พร้อมทั้งการสั่งกุญแจมาสเตอร์คีย์เพิ่ม

หุ้นส่วนรับสร้างบ้านอย่างไหนที่พึงจะคัดเลือกมาจัดทำบ้านพักอาศัย

ก่อนเราจะปลูกเรือนควรหากองกลางที่จะเข้ามารับสร้างบ้าน เพราะว่าจะดูได้จากความเด่น งานที่ผ่านมาประวัติส่วนตัวการก่อสร้างเป็นเช่นไร อาคารบ้านเรือนที่เคยก่อสร้างมามีคุณภาพดีหรือไม่เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจ หลังจากนั้นเหมาะหาข่าวว่าบริษัทฯ มีการรับใช้หลังการก่อสร้างแล้วเสร็จอย่างใด มีการตามช่วยดูแลผู้ใช้ดีบ่อยๆหรือเปล่า พร้อมกับการเข้าบริการชักช้าหรือไม่ก็รวดเร็วเพียงใด

สาระสำคัญ หมายถึง การดูว่าหุ้นส่วนดังกล่าวข้างต้น มีทรัพยากรที่พอเพียงที่จะสามารถสร้างบ้านของท่านให้มีความสำราญดีหรือไม่ พร้อมด้วยทีมที่จะมาดำเนินงานนั้นมีความเก่งความชำนาญมากน้อยปานใด เมื่อดูพร้อมสรรพเสร็จแล้วจึงจะตั้งต้นสัญญาจ้างให้หุ้นส่วนรับสร้างบ้านคือผู้ปลูกเรือนให้กับท่าน ควรไตร่ตรองข้อปลีกย่อยในหนังสือสัญญาให้ละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งงวดงาน การรับรองสิ่งปลูกสร้าง กำหนดระยะแล้วเสร็จไม่ก็ข้อกำหนดอื่นๆ สำหรับคุ้มกันการอุบัติข้อสงสัยข้อแย้งในวันหลังเพราะว่าถ้าหากเมื่อเริ่มดำเนินงานจะไปท้วงติงทีหลังออกจะยากเลย ทั้งยังปรากฏผลพวงทางลบกับทุกๆฝ่าย ดังนั้นการที่เราจักลงนามอนุสัญญาจำต้องรัดกุมค่อนข้างจะมาก

ทางกองกลางจะมีการจัดเรียงเอื้ออำนวยความสะดวกในการลงนามและการวางมัดจำ รวมถึงการนัดหมายการบริหารสร้างบ้านแบบขบวนการที่กระชับและละเอียดอ่อน ส่วนรายละเอียดนั้นก็จะมีการแจกแจงอยู่เรื่อยๆให้รับรู้การรุดหน้า ซึ่งหมายถึงงานการทุกอย่างคุณจะมีส่วนรู้เห็นเสมอ เพื่อให้งานการ อย่างมีประสิทธิภาพ จึงจำเป็นต้องขอให้มั่นใจถ้าเรื่องงานการของแห่งใดที่หนึ่งแล้ว วันนี้เราจึงขอแนะนำที่นี้  ให้คุณได้เข้าลองก่อนว่ามีกระไรที่น่าดึงดูดกันบ้าง

การคัดเลือกซื้อตู้เซฟควรมีแนววินิจฉัยให้ควรกับการใช้งาน

หากคุณประสงค์เลือกซื้อตู้เซฟควรมีนโยบายตรวจเพราะเหตุนี้ค่ะ

  1. ต้องทราบจุดหมายในการใช้งานผลิตภัณฑ์ก่อน ว่าจะนำไปเก็บสิ่งใด เพราะสินค้าตระกูลตู้เซฟนั้นมีอยู่หลายหลากแบบ อาทิเช่น เก็บรักษาสมบัติพัสถานมีค่า เก็บรักษาสิ่งพิมพ์ เก็บรักษาประกาศคอมพิวเตอร์ ฯลฯ
  2. ต้องทราบว่าจะเก็บทรัพยสมบัติมากน้อยแค่ไหน เหตุที่ต้องคำนึงเพราะว่าตู้เซฟในมากหลายๆรุ่นจะมีปริมาตรในต่างๆกัน มีชั้นวางของต่างๆกัน ในบางขณะหากสั่งจ่ายไปแล้วเกิดขนาดเล็กไปทำได้ไม่ได้ผิดเผื่อรับสมบัติในอนาคตกาลอาจทำให้ท่านเสียค่าใช้จ่ายในการจัดหาตู้เซฟใบใหม่อีกก็สิ้นเปลืองอีกค่ะ

  1. ต้องทราบขั้นในการวางสินค้าด้านในสถานที่ที่ต้องการใช้งานด้วย ตู้เซฟเครื่องหมายการค้าบางยี่ห้อมีจุดหลักในเรื่องของน้ำหนักที่เยอะ หากไม่ได้หารือทางคณะทำงานฝ่ายขายก่อนสั่งซื้อท่านอาจจะนำตู้เซฟไปวางไว้บนชั้นต่างๆที่ต้องการไม่ได้ อีกทั้งยังต้องคำนึงถึงโครงสร้างของอาคารที่จะวางตู้เซฟ หรือคำนึงถึงวิธีการนำเซฟขึ้นไป หากเป็นลิฟท์ก็ต้องมีการปรึกษาผู้รับผิดชอบลิฟท์ก่อน
  2. ต้องการระบบความปลอดภัยในการใช้งานมากน้อยแค่ไหน ผลิตภัณฑ์บางตัวออกแบบมามีระบบกันเจาะ บางรุ่นมีระบบกันไฟ หรือบางรุ่นมีทั้งกันเจาะและกันไฟ หรือสามารถเป็นระบบอิเล็คทรอนิกส์ พร้อมกับในบางรุ่นก็จะมีระบบเปิดอัตโนมัติ Time Lock ซึ่งจะต้องลองถามข่าวทางฝ่ายขายก่อนปลงใจคัดซื้อ ในส่วนที่เพราะด้วยบานพับ ควรคัดหาตู้เซฟที่มีเดือยยื่นออกทั้งสองด้าน

มารู้จักประเภทพร้อมทั้งระบบรถบังคับ

การทำความเห็นพร้อมกับรู้ด้วยว่ารถบังคับเป็นสิ่งที่สำคัญเหตุด้วยคุณ   ถ้าหากคุณอยากที่จะเลือกซื้อรถบังคับเพราะว่างานพิเศษ หรือหมายจะนำไปแข่ง   โดยขั้นต้นแล้วรถบังคับมีอยู่ 5 แบบด้วยกัน โดยเลือกคัดจากรถที่ใช้แข่งในพื้นที่ตระปุ่มตระป่ำ จะมาในรูปร่าง เครื่องยนต์ไฟฟ้าที่เป็นที่นิยมกันมาก   รถยนต์แข่งในภูมิประเทศขรุขระจะมีระบบกันสะเทือน พร้อมทั้ง สามารถวิ่งได้ในทุกพื้นผิว  มันยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ในการคัดล้อรถสำหรับโมเดล  มันไม่ค่อยประสงค์การซ่อมบำรุงมากนักแค่เพียงต่อเรือ   บนถนน รถ ถรบรรทุก รถขนาดเล็ก หรือตัวเลือกอื่นๆ ก็จะถูกเลือกโดยขึ้นอยู่กับงบประมาณ ระดับความรู้ความเข้าใจ ขอคุณ   กับขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณใคร่ หลายต่อหลายระบอบจะมาพร้อมกับกำลังแรงงานสำรองเล็กๆ    ไม่ว่าจะเป็นเชื้อเพลิงไนโตร หรือ แบบไฟฟ้าก็ตามที   นักเล่นรถบังคับสามารถเลือกได้หลายแบบกับทั้งสิ้นมีซื้อขายแลกเปลี่ยนที่ตลาด

รถแข่งขนาดจิ๋วระดับไมโครเป็นอะไรที่สนุกมากในการบังคับ มันเจ๋งจริงๆในการขับเคี่ยวในที่ดินเล็ก ๆพวกมันสามารถวิ่งไปตามพื้นครัว   มันมีขนาดเพียงแค่ 5-6 นิ้วเองเท่านั้นแต่บางรุ่นก็ใหญ่ถึง 9 นิ้วเลยด้วยกัน เทคโนโลยีระดับสูงในด้านวิศวะได้ทำให้เกิดคุณค่าใหม่ๆ   เช่นขับเคลื่อนด้วยสองล้อ ความเป็นสัดส่วนสมบูรณ์แบบ ความลงตัวในเรื่องของระบบกันกระแทก นอกจากนี้พวมันยังทำให้เราสนุกมากกว่านั้นแน่นอน   ถ้าคุณกำลังมองหาความท้าทายด้วยการกระแทก กระโดด แล้วล่ะก็การแข่งรถบรรทุกเป็นสิ่งที่คุณกำลังมองหา พวกมันจะมีระบบกันกระแทกสูงมาก และมีขนาดใหญ่โต    รวมไปถึงยางขนาดใหญ่ พวกมันถูกสร้างมาให้กระโดด ชนให้ล้ม อยู่ให้รอด แล้วลงโทษคันอื่นๆ และทำให้รถคันอื่นหยุดทำงาน   รถทุกรูปแบบย่อมแตกต่างกันไปตามการแข่งขันต่างๆย่อมมีได้เปรียบเสียบเปรียบ รถที่เป็นที่การกำหนดออกจะตายของ RC ก็คือ  ROAR แลพ NORRCA ซึ่งรายละเอียดของพวกนี้สามารถหาได้ตามเว็บไซท์หลวงของ RC hobby

การคัดซื้อที่นอนให้เข้ากับผู้สูงอายุ

โดยโดยมากคนสูงวัยจะมีท่าปวดหลัง เนื่องมาจากเกิดการเสื่อมไปตามวัยของกระดูกสันหลังพร้อมด้วยข้อต่อ จึงมักเห็นคนสูงวัยหลังคด หรือ งอ ปวดร้าวลงขา ซึ่งนับวันคนไทยจะมีอายุที่ยืนยาวขึ้น  โดยปัจจุบันนี้คนที่มีอายุยิ่งกว่า 60 ปี  คิดเป็น 9-10%ของประชากร หรือประมาณ 6-7 ล้านคน  ต้องมีการเก่าของกระดูกสันหลังเกิดขึ้น  อาจมีกิริยาท่าทางบิดเบี้ยวของกระดูกสันหลัง โก่ง คด งอ เลื่อนไปด้านหน้า ด้านข้าง หรือเนื้อที่บั้นเอว เป็นต้น การเคล้งโดยนอนบนที่นอนที่คู่ควรกับผู้สูงวัยเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาอาการปวดหลังของคนสูงอายุได้ โดยวิธีการเลือกซื้อที่นอนที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุมีด้วยเหตุนี้

ความหนาของที่นอน

ความหนาของที่นอนแบ่งตามแผนกของวัสดุที่ใช้ทำที่นอนเป็นพื้น โดยในล่าสุดที่นอนจะมีความหนาอยู่ระหว่าง 6-12 นิ้ว ซึ่งความหนาที่เหมาะกับคนชรานั้นมีวิธีเลือกดังต่อไปนี้

  1. ถ้าเป็นที่นอนสปริง ควรเลือกเฟ้นที่นอนที่มีความหนามากหน่อยควรมีความหนาของที่นอนเกิน 10 นิ้วขึ้นไป

2.ถ้าเป็นที่นอนยางพารา อาจจะไม่ต้องเน้นที่ความหนามากนักเนื่องจากที่นอนยางพาราถ้ายิ่งหนาจะยิ่งมีความหนักเบามาก ยากต่อการผลัดปูที่นอน หรือย้ายถิ่นทำให้หมดจด ต่อจากนั้นความหนาของที่นอนยางพารา ไม่ควรเกิน 8 นิ้ว หรือถ้าที่นอนหนาเกิน 8 นิ้วจะต้องมีความหนักเบาพอที่จะสามารถยกเปลี่ยนผ้าปูที่นอนคนเดียวได้

ที่นอนที่เหมาะสมกับคนชรานั้นจะต้องเน้นที่นอนที่มีการเบียดเสียดหรือ Density มากหน่อย โดยแบ่งขบวนการเลือกสรรออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่นอนสปริง กับกลุ่มที่ไม่ใช่สปริง โดยมีพลความดังนี้

1.ที่นอนสปริง จะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ สปริงต่อเนื่อง พร้อมกับสปริงแยกอิสระหรือ Pocket spring

  1. ที่นอนแผนกที่ไม่ใช่สปริง

 

แนวคิดปฏิบัติงานของประตูรีโมทที่เข้าใจง่ายๆ

หน้าที่ของ ประตูรีโมท เป็นทางเข้าออกที่คุมด้วยการเปิด-ปิด ด้วยรีโมทคอนโทรล ที่อาจจะใช้ร่วมกับเครื่องมือบังคับการอัตโนมัติแบบอื่นๆ ตัวอย่างเช่น คีย์การ์ด หรือไม่ก็เครื่องสแกน  ซึ่งช่วยอำนวยความง่ายดายในการเปิดเข้า-ออกของประตูได้อย่างยอดเยี่ยม เพื่อให้ช่วยทุ่นแรง และเวลา ถือได้ว่าเป็นเครื่องไม้เครื่องมือที่ช่วยในการหลีกเลี่ยงต่อการปะทะขโมยของ หรือ การขโมยรถยนต์ เมื่อลงไปเปิดประตู  ไม่ก็เสี่ยงต่อการที่มีผู้เยาว์อยู่ข้างในรถยนต์ แล้วเราลงไปเปิดทางเข้าออก เยาวชนสามารถเล่นเกีย ไม่ก็ รถยนต์ล๊อคเอง ทำเอาผู้เยาว์ติดอยู่ข้างในรถ

ประตูรีโมท  ตรงนั้นจะทำงานลั่นกลอนเองในตัว ครั้นเมื่อเคลื่อนที่ปิดแล้วไม่จำเป็นจะต้องเปลืองเวลาลงกลอนอีก เนื่องจากมีตัวรีโมทในการกำกับเป็นหลักเสมือนคือกุญแจในตัวมันเอง ซึ่งประตูรีโมทมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบหลักๆ เป็นต้นว่า

ประตูรีโมทแบบบานเลื่อน เป็นแบบเคลื่อน   ด้วยตัวประตูรีโมทจักวิ่งอยู่บนล้อไปตามรางเหล็กเพลาที่วางใกล้กับพื้น   นับว่าเป็นการเปิดแบบขยับที่ภายในแนวที่ขนานกับพื้นแผ่นดิน และการเลื่อนเปิดแบบประยุกต์ต่างๆ   โดยต้องมีเขตหน้าบ้านที่มีความกว้างขวาง เพียงพอที่จะเก็บประตูทั้งบานได้

ประตูรีโมทแบบบานสวิง  เป็นบานทางเข้าออกสองบาน  พร้อมทั้งเปิด-ปิดภายในลักษณะของบานสวิง โดยบาน ส่วนใหญ่มักใช้กับประตูหน้าบ้านที่ไม่ค่อยมีเขตแดนด้านกว้างขวางมากนัก ประตู  เพราะว่าแต่ละบานจะโดนยึดใกล้กับหัวเสาเข็มของทั้งสองด้าน  ซึ่งมีความลึกพอเพียงที่สามารถเก็บบานประตู ที่ไม่กีดขวางการเข้า-ออก ไม่ก็การหยุดรถ

เปิดให้บริการแล้วกิจการรับจำนำรถมอเตอร์ไซค์

การรับจำนำรถยนต์ เป็นอีกโอกาสที่หลายคนนิยมใช้ กรณีมีปมการเงินขาดสภาพคล่องขับรถมาหาเราสิค่ะ www.รับจำนำรถทุกรุ่น.com เราพร้อมให้บริการ  ให้ราบรื่น แก่คุณ  ไม่ต้องง้อใคร เป็นพิเศษหากรถคันดังกล่าวไม่ได้ติดไฟแนนซ์ ถูกโอนเป็นชื่อเจ้าของงดงามแล้ว รถอยู่ในภาวะปกติ ไม่มีปัญหาอะไร การจำนำก็จะง่ายด้วยกันสะดวกปรู๊ดปร๊าด การจำนำมีหลายชนิด เช่น จำนำรถมอเตอร์ไซค์ จำนำทะเบียน จำนำจอด จำนำรถที่ยังติดไฟแนนซ์ รถยนต์ จำนำรถป้ายแดง จำนำรถกับศูนย์จำนำเถื่อน

จำนำรถกับศูนย์จำนำเถื่อน

หากคุณไปใช้ให้บริการกับศูนย์รับจำนำรถเถื่อน  เรียกชื่อเสียน่ากลัว แต่ก็เข้ามาแล้วนี่ ไม่ยอมตกเทรนหรอกค่ะ ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ออกไปทางอีสานใต้ ไปช่องจอมนู่น ในเวลานั้นอยู่กรุงเทพนะค่ะไปไกลเหมือนกัน ศูนย์จำนำเถื่อนหรือผู้ให้บริการกระนี้จะเป็นศูนย์รับจำนำตามชายแดนมากกว่า ผู้ใช้บริการจำนวนมากจะเป็นนักลองไปเล่นการเสี่ยงโชค เงินหมด ก็จำนำรถเสียเลย เอาเงินไปเล่นต่อ รายที่มีเอกสารพร้อม ยิ่งสามารถโอนได้ ก็จะได้ราคามากกว่า บางรายสิ่งพิมพ์ไม่พร้อม ก็รับจำนำ แต่ได้เงินน้อย ราคาหลายแสนอาจจะจำนำได้ไม่กี่หมื่น หากไม่ไปรับรถในระยะเวลาที่กำหนด ไม่ส่งดอกเบี้ย ก็มีสิทธิถูกส่งเข้าประเทศเพื่อนบ้านได้สบายๆ ต้องทำใจทั้งคนจำนำกับรับจำนำ  ทางที่ดีเราสั่งสอนให้ท่านใช้บริการกับศูนย์รับจำนำที่ถูกเทศบัญญัติดีกว่าค่ะ  เสถียร  อุ่นใจ  ไม่ต้องคอยระแวงว่ารถของท่านจะวอดวาย  ทางศูนย์บริการรับจำนำรถพร้อมควบคุมรถของคุณเป็นอย่างดีถูกต้องค่ะ

วิธีเสริมสร้างพัฒนาการลูกน้อยตั้งแต่ตั้งครรภ์

การอินังขังขอบสุขภาพอนามัยขณะตั้งครรภ์และการเตรียมการความพร้อมตั้งแต่ลูกน้อยอยู่ในครรภ์นับเป็นสิ่งที่อัศจรรย์ มาก ๆ ค่ะ วันนี้http://www.dumex.co.th  ก็มีเรื่องเล่าความฉลาดดี ๆ จากนิตยสาร MODERNMOM มาฝากว่าที่คุณแม่กันค่ะ มาสร้างลูกน้อยให้มีความเจริญที่ดีตั้งแต่อยู่ในครรภ์ก่อนออกมาผจญโลกกว้างได้อย่างสมบูรณ์แข็งแรงกันดีกว่าค่ะ

ทำภาวะจิตสงบสบาย รับความผ่อนไปโดยพร้อมเพรียง

หากไม่เคยลองนั่งสมาธิมาก่อน นี่เป็นเวลาที่คุณแม่จะได้ทำกิจกรรมจัดทำที่ให้ผลกำไรทั้งตัวแม่ด้วยกันลูกไปพร้อมกัน หาเวลาสักวันละ 1 ชั่วโมง เช่น ก่อนนอน หรือตอนเช้าตรู่ ในมุมสงบของบ้านนั่งภาวะจิตสงบ ทำใจให้สงบสุข ผ่อนลมหายใจเข้าออกช้า ๆ ทิ้งเรื่องอื่น ๆ ไว้ก่อน แล้วนับลมหายใจเข้าออกแทน การทำสมาธิจะทำให้ดวงใจแม่สงบ มีความมุ่งมั่น จะมีผลต่อร่างกายคุณแม่ให้เลือดสูบฉีดปกติ หัวใจเต้นสม่ำเสมอ ส่งผลต่อสติปัญญาให้รู้สึกมั่งคง ไม่เป็นอันตรายไปด้วย

อ่านบทกลอนวันละหน่อย ลูกสมองชื่นบาน

ไม่ใช่แค่เรื่องเล่าเท่านั้นที่จะช่วยเร่งเร้าความเจริญลูกน้อย แต่เนื้อหาตระกูลบทกลอนที่มีคำเป็นจังหวะเรียงร้อยเข้าด้วยกันจะช่วยสร้างโอกาสอันควรจะโคนในการฟังให้รู้สึกสุภาพเรียบร้อยเพิ่มพูน จดจำได้ง่ายขึ้น คุณแม่ลองหาตัวอย่างกลอนที่มีเนื้อหาจัดทำ น่ารัก ๆ เช่น บทกลอนเพราะธรรมชาติเด็ก หรือความรักในวงศ์ญาติ แล้วอ่านดัง ๆ ให้ลูกฟังก่อนนอนวันละบทสองบท จะช่วยสร้างการระลึกด้านภาษา เร่งเร้าการฟัง การได้ยินตั้งแต่อยู่ในครรภ์ มีผลต่อการปรับปรุงของเซลล์สมองได้เป็นอย่างดี

แปลเอกสารเยอรมัน รวดเร็ว ทันใจ เรียกใช้บริการเราสิค่ะ

บริษัท L.O.W. Travel and Service Co.Ltd. คือศูนย์รวมบริการแปลเอกสารเยอรมันกฏเกณฑ์ระดับสูงที่รวมเหล่านักแปลมือหน้าที่สามารถให้บริการแปลไทยเป็นเยอรมัน  ยินดีให้บริการแปลทั้งแบบแปลประโยคไทยเป็นเยอรมัน กับแปลเอกสารยาวๆ ได้ทุกวันไม่มีวันหยุด ตลอด24ชั่วโมง นักแปลของเรามีความเก่งในทุกสาขาวิชาตอบสนองต่อความอยากในบริการแปลภาษาของลูกค้าผู้เข้ามาใช้บริการทั่วประเทศ ทีมงานของเราพร้อมให้บริการแปลเอกสารแก่คุณทันทีด้วยงานคุณค่าเลิศ

ไม่ว่าเอกสารของคุณจะเป็น คู่มือการใช้งาน เอกสารการตลาด รายงานประจำปี เปเปอร์ บทความ งานวิจัย หนังสือ เอกสารราชการ ฯลฯ คุณมาถูกที่แล้ว ด้วยขั้นตอนง่ายๆ ไม่ซ้อนซับ และ เร็ว เพียงแค่อัพโหลดไฟล์งานที่ตั้งใจแปลขึ้นบนระบบงานแปลอัจฉริยะของเรา คุณก็จะสามารถเลือกเฟ้นใช้บริการกับนักแปลที่สามารถแปลไทยเป็นภาษาเยอรมันในราคาที่คุณพอใจได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที

แปลประโยคไทยเป็นเยอรมัน

ในยุคปัจจุบันนี้ภาษาเยอรมันเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในทุกวงการ ทั้งทางด้านกิจการ การแพทย์ การเรียน การปกครอง ฯลฯ นอกจากนี้เกี่ยวโยงจากรายงานสถิติการศึกษาว่าด้วยภาษาที่ใช้สูงสุดบนโลกอินเตอร์เน็ต

เมื่อความพึงปรารถนาในการใช้ภาษาเยอรมันเพิ่มมากขึ้นส่งผลให้การแปลภาษาเยอรมันเป็นภาษาต่างๆ ในโลกจึงเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะคนไทยจะต้องมีสถานการณ์ที่ต้อง แปลภาษาเยอรมันเป็นภาษาไทย และแปลภาษาไทยเป็นภาษาเยอรมัน อยู่เสมอๆ เช่น การแปลภาษาไทยเป็นภาษาเยอรมัน  ในหนังสือเรียน บทความ สื่อโฆษณา แผนกิจการค้าต่างๆ ฯลฯ

บริษัท L.O.W. Travel and Service Co.Ltd.  คิดถึงความสลักสำคัญของการแปลภาษาเยอรมันเป็นอย่างมาก จึงได้เพิ่มขึ้นระบบการแปลภาษาเยอรมันออนไลน์ที่สมัยใหม่และใช้งานง่ายเพื่อให้ผู้หวังแปลภาษาเยอรมันสามารถสั่งงานแปล พร้อมด้วย ใช้บริการด้านการแปลภาษา ได้สะดวก ฉับไว โดยทีมงานนักแปลมือการยังชีพที่คุณสามารถคัดเลือกเองได้ ในราคาที่คุณเต็มอกเต็มใจและพอใจ โดยมีเราเป็นผู้รับประกันความสมปรารถนาให้กับงานที่ท่านได้รับ

 

เทคนิคในการทำความสะอาดชุดกี่เพ้า

ผ้าไหมจีน เป็นแพรพรรณที่การกำหนดนำมาตัดชุดกี่เพ้ามากที่สุด เกี่ยวด้วยสรรพคุณของเนื้อผ้าที่มีความนิ่ม ละเอียดยิบ เนื้อไหมเย็น พร้อมทั้งยังปรับสถานภาพได้ดีในทุกภาวะอากาศ เพราะเมื่ออากาศร้อน เนื้อผ้าไหมจะช่วยให้ความเย็นได้ แต่หากเป็นฤดูอากาศหนาว เนื้อผ้าไหมจะช่วยให้ให้อุ่นสบายได้เช่นกัน นั่นเป็นเพราะเส้นไหม ถือเป็นเส้นใยโปรตีนจากธรรมชาติ ส่งผลให้การรับใช้ทำความสะอาดผ้าไหม จึงต้องดูแลและใส่ใจให้ถูกวิถีทางด้วยเช่นกัน

ในอดีต เพราะผู้ที่ได้รับผ้าไหม หรือสวมชุดผ้าไหมครั้งแล้วครั้งเล่า จะมีขั้นตอนในการทำความสะอาดด้วยการใช้น้ำมะพร้าวบริสุทธิ์ หรือหากมีรอยสกปรกก็จะชำระล้างรอยสกปรกนั้นด้วยการใช้หัวหอมถู หากยุคปัจจุบันการระวังรักษาเส้นไหมนั้นสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยยุทธวิธี กระนี้

1.ก่อนนำผ้าไหมไปทำการตัดเย็บให้ทำความสะอาดผ้าด้วยน้ำอุ่นเพื่อชะล้างฝุ่นลออง โดยผสมน้ำกับเกลือผ้าไหมแล้วซักเบา ๆ เพื่อคุ้มครองการเกิดรอยขีดบนเนื้อผ้า

2.ในการซักผ้าไหมถูกคัดเลือกสินค้าที่ไม่ทำร้ายเส้นไหมในการทำความสะอาดเช่นสบู่อาบน้ำเด็ก สบู่ก้อนหรือน้ำยาเคมีที่ใช้ด้วยว่าซักผ้าไหมเป็นพิเศษ ที่สำคัญคือไม่ต้องใช้ผงซักฟอกและน้ำยาฟอกขาวขาดลอย เพราะจะทำร้ายเนื้อไหมให้เสียหายกับเส้นไหมเปื่อยได้

3.ไม่พึงจะใช้น้ำร้อนหรือน้ำอุ่นในการฟอกผ้าไหมเพราะจะทำให้เส้นไหมหดและเกิดรอยย่นได้

4.ไม่จำต้องแช่ผ้าไหมไว้ในน้ำยาฟอกผ้า หรือใช้แปรงขัดถูผ้าไหมแรง ๆ เพราะเป็นการทำร้ายเนื้อผ้าโดยตรง

5.ไม่ควรบิดผ้าไหมเป็นเกลียว แต่น่าจะใช้วิธีบีบไล่น้ำออกเบา ๆ

6.ไม่จงตากผ้าไหมในที่มีแดดแรง

 

เวลาที่อ่านหนังสือที่ดีที่สุดที่เราไม่รู้มาก่อน

18

เวลาที่เพื่อนๆอ่านหนังสือมักจะเป็นตอนกลางคืนใช่ไหมคะ เราก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ชอบอ่านตอนกลางคืน และเราก็มักจะง่วงก่อนที่เราจะอ่านหนังสือจบอยู่บ่อยๆ ว่าแต่เพื่อนๆรู้ไหมว่า จริงๆแล้วเวลาไหนเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการอ่านหนังสือ ในทางวิทยาศาสตร์ด้านสมองเขาบอกว่า การท่องหนังสือในเวลากลางคืนเป็นสิ่งที่ไม่แนะนำค่ะ เพราะว่าเวลากลางคืนเป็นเวลาที่เราควรนอนหลับ ซึ่งการนอนหลับ สมองของคนเราจะมีการจัดระเบียบความทรงจำและบันทึกเรื่องราวต่างๆ ที่เราตื่นนอนจนเราเข้านอนค่ะ ซึ่งการจำอะไรให้มีประสิทธิภาพ ก็จำเป็นต้องนอนให้เพียงพอด้วย ส่วนเวลาที่เหมาะสมในการจำนั่นก็คือ เวลาช่วงเช้านั่นเองค่ะ เพราะการจัดระเบียบความจำเกิดขึ้นตอนที่เรานอนหลับ เพราะฉะนั้นสมองของเราในช่วงเช้าจะปลอดโปร่ง เหมาะสำหรับการใช้งานอย่างเต็มที่ ซึ่งถ้าอ่านหนังสือช่วงนี้ได้ ก็เรียกว่าการจำก็จะมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นค่ะ แถมยังเป็นช่วงที่เหมาะสำหรับงานที่ต้องใช้การสร้างสรรค์หรืองานเขียนต่างๆ อีกด้วยนะ

เคยมีคนบอกว่าเวลาที่ดีที่สุดคือตอนเช้าเพราะร่างกายเราได้พักผ่อน รวมทั้งสมองก็ได้พัก มีการจัดระเบียบเรียบร้อย เพื่อให้พร้อมกับการใส่ข้อมูลใหม่ ๆ เข้าไป อันนี้เป็นเรื่องจริง แต่สำหรับคนที่ตื่นเช้าไม่ไหว เวลาดึก ๆ ที่เงียบ ๆ ก็เหมาะ คือว่ามันเงียบไงสมองเราก็สามารถคิดสิ่งต่างๆ ได้ดี แต่อาจจะไม่เท่าตอนเช้า เพราะสมองเราต้องเหนื่อยจากการเรียนมาแล้วทั้งวัน บางคนยังมีการเรียนพิเศษตอนเย็นอีก สำหรับตัวเราเอง อ่านตอนกลางคืนสักนิด ได้เท่าไหนก็แค่นั้น 5 ทุ่มต้องเข้านอน แล้วก็ตั้งนาฬิกาปลุกตอนตี 3 ตี 4 ตี 5 แนะนำให้ตั้งนาฬิกาปลุกก่อนเวลาที่ต้องตื่นไปสักครึ่งชั่วโมง เพื่อที่เราจะได้มีเวลาเกลือกกลิ้งอยู่บนที่นอนก่อนสักพัก ถึงค่อยลุกไปล้างหน้าล้างตา มานั่งอ่าน ขอย้ำว่าควรทำให้ตัวเองตื่นเต็มที่ก่อนจะอ่าน เพราะไม่งั้นเดี๋ยวก็หลับคาหนังสืออีกจนได้

เวลาที่ไม่เหมาะสำหรับการอ่านหนังสือเรียนเลย คือ ช่วงบ่ายหลังจากกินข้าวเสร็จอิ่ม ๆ เคยได้ยินสุภาษิตไทยที่ว่า “พอหนังท้องตึง หนังตาก็หย่อน” ไหม ช่วงบ่ายจะเป็นช่วงที่คนเรามีความง่วงนอน อ่านไปก็หลับ ยิ่งหนังสือเรียนด้วย และไม่ควรนอนอ่านหนังสือ โดยเฉพาะบนเตียง ขอบอกว่าหลับแน่ๆ ไม่ใช่อ่านนิยายนี่ มันจะน่าติดตาม จนอยากอ่านให้จบ เรามีเพื่อนคนหนึ่ง เขาบอกว่าหนังสือเรียนคือยานอนหลับขนานเอก เห็นจะจริง อ่านไม่กี่หน้าก็หลับแล้วการอ่านควรจะเป็นในสถานที่ที่สงบ เงียบ และสมองเราพร้อมที่จะรับเรื่องใหม่ ๆ นั่นแหละการอ่านถึงจะได้ผลสูงสุด

เทคนิคการอ่านหนังสือให้เข้าใจมากขึ้น

การทำความเข้าใจและจดจำนี้ เป็นเทคนิคง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถนำไปปฏิบัติได้ ขอแต่เพียงเข้าใจและทำความเข้าใจและจดจำบทเรียนนั่นคือ การหมั่นฝึกฝนตามขั้นตอนให้เกิดความเคยชินจนติดกลายเป็นนิสัยการอ่านเพื่อทำความเข้าใจนี้จะแตกต่างจากการอ่านเพียงเพื่อท่องจำ คือ
1.เวลาอ่านบทเรียนหรือตำรา ให้อ่านอย่างตั้งใจ จะหยุดอ่านเมื่อจบย่อหน้าหรือหยุดเมื่ออ่านไปได้พอสมควรแล้ว
2.จากนั้นให้ปิดหนังสือ แล้วลองอธิบายสิ่งที่ตนเองได้อ่านมาให้ตัวเองฟัง คือ สามารถอธิบายให้ตัวเองฟังด้วยภาษาสำนวนของเอง ฟังแล้วเข้าใจหรือเปล่า หากสามารถอธิบายให้ตัวเองฟังรู้เรื่อง แสดงว่าเข้าใจแล้ว ให้อ่านต่อไปได้
3.หากตอนใดอ่านแล้วแต่ไม่สามารถอธิบายให้ตัวเองรู้เรื่อง แสดงว่ายังไม่เข้าใจ ให้กลับไปอ่านทบทวนใหม่อีกครั้ง
4.หากพยายามอ่านหลายรอบแล้วยังไม่เข้าใจจริงๆให้จดโน้ตไว้เพื่อนำไปถามอาจารย์ จากนั้นให้อ่านต่อไป
5.ข้อมูลบางอย่างในตำราจำเป็นที่จะต้องท่องจำ เช่น ตัวเลข สถิติ ชื่อสถานที่ บุคคล หรือ สูตร ต่าง ๆ ฯลฯ ก็ควรท่องจำไว้ด้วย เพื่อทำให้เกิดความเข้าใจ ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
6.การเรียนด้วยวิธีท่องจำโดยปราศจากความเข้าใจ เรียนไปก็ลืมไป สูญเสียเวลา เปล่าประโยชน์ เสียเงินทอง
7.การเรียนที่เน้นแต่ความเข้าใจ โดยไม่ยอมท่องจำ ก็จะทำให้เข้าใจเรื่องต่าง ๆ ไม่ชัดเจน คลุมเครือ
8.สรุปเทคนิคง่าย ๆ สั้น ๆ เช่น อ่านหนังสือสลับกับการอธิบายให้ตัวเองฟัง และท่องจำเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นต้องจำจริง ๆ เช่น ตัวเลข ชื่อเฉพาะต่างๆอ่านหนังสือด้วยวิธีการนี้จะทำให้เข้าใจบทเรียนได้ทั้งเล่ม
การปล่อยให้ความตั้งใจและอารมณ์ล่องลอยไปกับความคิดที่สอดแทรกเข้ามาขณะอ่าน จะทำให้ไม่ได้รับความรู้อะไรจากการอ่านเลย ฉะนั้นจะต้องพัฒนาความสามารถโดยฝึกจิตให้แน่วแน่มุ่งความสนใจอยู่ที่หนังสือเพียงอย่างเดียว ความสามารถในการอ่านสามารถพัฒนาได้โดยการฝึกฝน ทำตามข้อเสนอแนะในการอ่านดังที่กล่าวมา ทั้งนี้ควรพยายามฝึกฝนการอ่านให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น อ่านให้ได้เร็วขึ้น เพียงเท่านี้ก็จะเป็นผู้ที่มีประสิทธิภาพในการเรียน และประสบผลสำเร็จในการศึกษาได้เป็นอย่างดี

แนะนำเทคนิควิธีการในการอ่านหนังสืออย่างนักคิด

พอพูดถึงการอ่านแล้วหลายคนถึงกับมีอาการ(ง่วงนอน) เพราะนิสัยไม่ชอบอ่านมาตั้งแต่เด็ก บางคนชอบอ่านเป็นบางครั้ง บางเรื่อง บางเวลา และบางอารมณ์ แต่ในขณะที่บางคนเป็น “หนอนหนังสือ” เห็นตัวอักษรที่ไหน เมื่อไหร่ พลาดไม่ได้จะต้องขออ่านไว้ก่อน ถ้าวันไหนไม่ได้อ่านหนังสือมันเหมือนกับชีวิตขาดอะไรบางอย่างไป และพฤติกรรมการอ่านหนังสือของแต่ละคนก็มีความแตกต่างกันไปตามความชอบของแต่ละคน บางคนชอบอ่านหนังสือบนรถเมล์ บางคนชอบอ่านหนังสือก่อนนอน บางคนชอบอ่านหนังสือไปด้วยดูทีวีหรือฟังเพลงไปด้วย บางคนขาดไม่ได้ที่จะต้องอ่านหนังสือเวลาเข้าห้องน้ำ บางคนชอบอ่านหนังสือเวลาเครียด แนะนำเทคนิควิธีการในการอ่านหนังสืออย่างนักคิด พูดง่ายๆคืออ่านหนังสืออย่างไรจึงจะทำไห้เราได้ทั้งความรู้และพัฒนาศักยภาพทางความคิดไปในตัวด้วยนั่นเอง

หนังสือคือเชื้อเพลิงทางความคิด

มีความเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่าคนทุกคนมีศักยภาพในการคิดที่ไม่แตกต่างกัน แต่พลังทางความคิดของใครจะสูงส่งกว่ากันนั้นอยู่ที่ว่าใครสามารถสร้างพลังงานทางความคิดได้ดีกว่ากันมากกว่า พลังงานทางความคิดมาจากไหน ก็มาจากการจุดเชื้อเพลิงทางความคิด ถ้าจะถามต่อไปอีกว่าเชื้อเพลิง ทางความคิดมาจากไหน ก็มาจากการฟัง พูด อ่าน เขียนนั่นเองครับ ในที่นี้ผมจะขอพูดถึงเชื้อเพลิง ที่มาจากการอ่านก่อนนะครับ ในขณะที่เรากำลังอ่านหนังสืออยู่นั้น สมองของเรากำลังถูกลนด้วยไฟทางความคิดของผู้เขียนทำให้ความคิดของเราอ่อนตัวลง (คล้อยตามความคิดผู้เขียน) ช่วงเวลานี้ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่เราจะขึ้นรูปทางความคิดใหม่ โดยอาศัยพลังงานจากการอ่านไป เพิ่มเติมและปรับเปลี่ยนความคิดเดิม หรือสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ทางความคิดใหม่ๆขึ้นมา ดังนั้น ในขณะอ่านหนังสืออย่าเพียงอ่านเพื่อให้รู้ว่าเขาเขียนว่าอะไรเท่านั้น แต่จงหยุดอ่านเป็นช่วงๆ เพื่อให้สมองได้มีเวลาคิดบ้าง เช่น อ่านจบแต่ละบท แต่ละตอนให้หยุดคิดสัก 1-2 นาที แล้วค่อยอ่านต่อ

บันทึกความคิดระหว่างการอ่าน

ขอให้คิดเสมอว่าหนังสือหนึ่งเล่มที่เรากำลังอ่านนั้น เป็นการลงทุนทางความคิด ดังนั้น เราจงหากำไรจากการอ่านให้มากที่สุด โดยการจดบันทึกความคิดที่มันวิ่งไปวิ่งมาในสมองของเรา จะสังเกตได้ว่าในขณะที่อ่านหนังสือไม่ว่าหนังสือประเภทไหน แม้กระทั่งการอ่านหนังสือพิมพ์ ในสมอง ของเราจะมีความคิดบางอย่างเกิดขึ้น บางครั้งเป็นความคิดที่เกิดขึ้นชัดเจน บางครั้งเป็นความคิดที่แว๊บขึ้นมาแล้วก็หายไปอย่างรวดเร็ว ประเด็นสำคัญอยู่ที่เราสามารถจับเอาความคิดที่แว๊บไปแว๊บมานั้นได้มากน้อยเพียงใด ผู้อ่านส่วนใหญ่ไม่ค่อยใส่ใจกับจุดนี้เท่าใดนัก จึงทำให้การอ่านเป็นเพียงการอ่านเพื่อรู้ แต่ยังขาดประเด็นเรื่องการอ่านเพื่อคิด ผมอยากแนะนำให้พกปากกาหรือดินสอติดตัวเสมอในระหว่างการอ่านหนังสือ เมื่อเราจับความคิดอะไรได้ ขอให้บันทึกไว้หน้าแรกหรือหน้าสุดท้ายของหนังสือ เมื่อเราอ่านจบเล่มแล้ว สิ่งที่เราบันทึกนั่นแหละคือกำไรแห่งชีวิตในการอ่านหนังสือ และผมคิดว่าความคิดที่เราคิดได้ในระหว่างการอ่านนั้นอาจจะมีค่ามากกว่าราคาของ หนังสือแต่ละเล่มก็ได้

อย่าอ่านเอาเรื่อง แต่จงอ่านเอาความคิด

การอ่านโดยทั่วไปคือการอ่านเอาเรื่อง เพื่อจะรู้ว่าเรื่องนั้นๆเป็นอย่างไร แต่การอ่านแบบนักคิด จะต้องอ่านตัวหนังสือเพื่อสื่อไปถึงเจตนารมย์ของผู้เขียนว่า จริงๆแล้วผู้เขียนต้องการสื่อความคิด อะไรออกมา หรือถ้าสามารถสาวไปถึงความคิดของผู้เขียนได้ก็จะยิ่งดีมากครับ ผมอยากจะบอกว่าตัวหนังสือที่เราอ่านนั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความคิดของผู้เขียนที่ถูกกรั่นกรองออกมาแล้ว เท่านั้น แต่กว่าที่เขาจะเขียนออกมาได้นั้น เขาต้องมีความคิดมากกว่าที่เขียนอย่างแน่นอน ผมคิดว่า ถ้าเราอ่านแค่เพียงตัวหนังสือหรืออ่านเอาเรื่องนั้น เรา(ในฐานะผู้อ่าน) คงจะมีความรู้และความคิดน้อยกว่าผู้เขียนอย่างแน่นอน ดังนั้น ถ้าเราอยากจะเป็นผู้อ่านที่เป็นนักคิดด้วยนั้น เราจะต้องเข้าถึงแนวคิดที่แท้จริงของผู้เขียนและต้องต่อยอดแนวคิดของผู้เขียนให้ได้

นำดอกผลทางความคิดไปใช้งาน

เมื่อเราบันทึกความคิดจากการอ่านหนังสือแต่ละเล่มไว้แล้ว อย่าลืมนำเอาความคิดที่ได้ระหว่างการ อ่านไปใช้งาน เพราะมิฉะนั้น ความคิดเหล่านั้นก็ไม่มีประโยชน์อะไร วิธีการนำเอาไปใช้ก็สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การนำไปใช้เป็นแนวทางในการเขียนหนังสือ บทความ การนำไปใช้ในการพัฒนาปรับปรุงงาน การนำไปใช้ในการถ่ายทอดสู่ผู้อื่น การนำไปใช้ในการพัฒนาตัวเอง พัฒนา ลูกน้อง หรือบางคนอาจจะไปใช้ในการสร้างอาชีพใหม่ ซึ่งเทคนิคการนำเอาความคิดไปใช้อาจจะ นำไปใช้ตรงๆ หรือนำเอาความคิดนั้นไปผ่านกระบวนการคิดสร้างสรรค์แบบต่างๆ เช่น การคิด ข้ามกล่อง (Lateral Thinking) โดยการผสมผสานแนวคิดที่ได้จากการอ่านเข้ากับแนวคิดในเรื่องใด เรื่องหนึ่งเพื่อก่อให้เกิดความคิดใหม่ที่ดีกว่าเดิม

สรุป การอ่านหนังสือแบบนักคิดนั้นแตกต่างจากการอ่านหนังสือแบบผู้อ่านทั่วๆไปตรงที่เราใช้หนังสือเป็นบันไดในการก้าวไปสู่ความคิดของผู้เขียน ในขณะเดียวกันเราก็ใช้หนังสือเป็นเชื้อเพลิงในการจุดไฟเพื่อส่องสว่างทางความคิดให้กับเราเดินไปสู่ความคิดใหม่ที่เป็นของตัวเราเอง เราต้องคิดเสมอว่า ถ้าเราอ่านเพียงเพื่อรู้ เราจะเป็นได้เพียงผู้ตามเท่านั้น แต่ถ้าเราอ่านเพื่อคิด เราสามารถก้าวเป็นผู้นำ(ทางความคิด)ได้อย่างแน่นอน

ในการทำหนังสือใครจะเชื่อล่ะว่าปกคือส่วนที่ได้รับงบน้อยที่สุด

10

ปัจจุบันนี้ประเทศญี่ปุ่นที่โดยปกติแล้วจะขึ้นชื่อเรื่องการให้เกียรติรุ่นพี่ในที่ทำงานหรือการทำอะไรเป็นขั้นเป็นตอนตามระบบ จะสนใจหนังสือแนวที่เรียกว่า “การสร้างชื่อให้ตนเอง” อย่างมาก เราเรียกหนังสือแบบนี้ว่าหมวด Personal Branding โดยเป้าหมายของหนังสือแบบนี้มาจากการตั้งคำถามของคนญี่ปุ่นในใจว่า ทำไมเราต้องเห็นคนกระจอกๆ ได้รับเลือกให้มีตำแหน่งดีๆ ทั้งๆ ที่เราเก่งกว่า นำไปสู่คำตอบที่ว่า “ก็เขาพรีเซนต์ตัวเองเก่งกว่าไงเหตุนี้คนญี่ปุ่นเลยพยายามหาหนังสือแบบนี้มาอ่านเพื่อปรับปรุงตัวเองแบบเนียนๆ นี่คือเรื่องใหม่มากของญี่ปุ่น ต่างจากในไทยมากที่ต่างคนพยายามพรีเซนต์ตัวเองกันสุดๆ เป็นแบบนี้มานานแล้วด้วย น้ำไว้ก่อนว่าไม่ใช่เรื่องผิดเลย มันเป็นเรื่องปกติของการทำงานเพียงแต่เราต้องเป็นคนที่ไม่โตขึ้นโดยการเหยียบหัวใคร ทำอะไรให้สุจริตเท่านั้นเอง

ปกหนังสือญี่ปุ่นแน่นอนว่าบางทีเราอาจจะแทบไม่เคยเห็นเพราะมันมักจะถูกห่อหุ้มด้วยปกกระดาษของแต่ละร้านค้าเพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้อ่าน ในที่นี้นั่นเรามาดูรายละเอียดกันสักนิดหนึ่ง ตอนนี้นั้นกระแสของการห่อปกมีน้อยลงบ้าง เพราะแต่ละคนพบว่าการห่อปก แน่นอนว่ามันจะช่วยทำให้ปกจริงๆ ไม่เปื้อนและยังปิดไม่ให้คนอื่นรู้ด้วยว่าตนอ่านอะไร แต่หลายเจ้าที่พอเปิดออกมาก็พบว่า อ้าวปกเละแน่นอนว่าศาตร์โอริกามิทำให้การพับปกดูเท่มากที่ไม่ต้องพึ่งพาตัวยึดเลยแม้แต่นิดเดียว แต่หากมันมีช่องว่างเพียงน้ดเดียว หรือปกบางส่วนขาด สำหรับหนังสือในยุคปัจจุบันนี้ มีโอกาสปกเสียขึ้นมากเพราะอะไร ไปดูหัวข้อต่อไปกัน

ในการทำหนังสือใครจะเชื่อล่ะว่าปกคือส่วนที่ได้รับงบน้อยที่สุด เขาให้เวลาและให้ทุนไปกับการหาข้อมูลเนื้อหาภายในกันมากกว่า ทีนี้หากเราสังเกตกัน คือคนทำปกกับคนทำตัวเล่มเนี่ยมันแยกกัน (ปกญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะเป็นกระดาษปกครอบตัวเล่มอีกทีนึง) ทีนี้พวกหนังสือแบบนี้เนี่ยถ้าเราแกะปกกระดาษออก จะพบว่าปกที่ติดกับตัวเล่มผลิตอย่างโคตรลงทุนเลยล่ะ!! ยกตัวอย่างล่าสุดมีเล่มนึงเกี่ยวกับการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ปกนอกแบบเชยมากสีแดงๆ มีรูปวัดวาอารามดอกซากุระ แต่พอแกะปกออกมาดูเท่านั้นแหละ ข้างในเป็นลายตารางสีขาว-แดง สุดชิค ให้อารมณ์เหมือนพิมพ์ประชดคนทำปกกระดาษ 555 เล่มอื่นๆ ก็เหมือนกัน ลองไปแกะมาดูกันได้